Animated Spinning Kunai - Naruto

อักษรวิ่ง

ยินดีต้อนรับสู่บล็อกเเห่งการเรียนรู้

วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567

แนะนำตัวละคร เข้าอ่านหน่อยคับ

 

เเนะนำตัวละครเเบบฉ่ำ


สุเทษณ์
เป็นเทวดาที่เเอบรักนางมัทนามานานคับเเต่อาภัพรักไม่เคยได้สมหวังกับนางสักครั้ง เป็นคนครั่งรัก เเล้วก็ปากหวานมาก อันนี้คิดเองผมใส่ฟิลเตอร์ เป็นพระเอกครับ ถึงเหี้ยเเต่ไม่ใช่ตัวร้าย

นางมัทนา
เป็นนางเอกเเกร่งครับ ใจเเข็ง ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยร่างของผู้ชาย พร้อมต่อย เเต่เขาเป็นเทพเลยต้องยอม

จิตระเสน
เหมือนมือขวาของสุเทษณ์ น่าจะเชียวเรื่องดนตรี เเละการรำ เท่าที่ดูก็เป็นครอบรอบใจเย็น เเบบพ่อบ้านใจดีในมานฮวาทุกเรื่องเเหละครับ

จิตระรถ
เหมือนมือซ้ายขอสุเทษณ์ในเมื่อมีพ่อบ้านดีเเล้วก็ต้องมีพ่อบ้านที่เเกมโกงคับ คนนี้น่าจะเก่งเรื่องวาดรูป เป็นจิตรกรเอกเลย ฉลาดเเบบร้ายๆ ถ้าเป็นอนิเมะก็น่าจะเเย่งซีนพระเอกสุดๆอะ

มายาวิน
เป็นฟิลล์หมอผีครับ รู้เยอะรู้จริง เเต่เป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็หมอผีอะ  เเต่เป็นคนรู้จักพูดนิดนึ่ง ก็ ดีครับ ตัวประกอบก็เเค่นี้



ตัวละครเสริมที่ต้องการครับ

นางรำ ห้าคน
คนเล่นดนตรี สี่คน (ร่วมจิตระเสนก็5พอดี)
คนที่ค่อยขนของเข้าฉากอีกสองคน
เป็นไปได้ก็อยากได้คนคุมเสียงนหนึ่ง ถ้าว่างพอที่จะหาดนตรีมาใส่อะนะ

ประมาณนี้ครับเพื่อนรักหลักจากนี้ก็พยายามเข้าครับ นายทำได้​

มัทนะพาธา ห้าสิบสามกอ

 




เริ่มเรื่องด้วย เป็นเรื่องในท้องพระโรง มีสุเทษนั่งเเบบสบายๆฟังเพลง ข้างหน้ามีจิตระเสนนั่งอยู่ ด้านข้างมีเหมือนลูกน้องนั่งเข้าเฝ้าอยู่ ข้างหลังจิตระเสนมีเเก๊งนักดนตรี กำลังเล่นเพลงล้อสุเทษอยู่ พอเริ่มเล่นดนตรีไปสักพัก สุเทษก็เริ่มไม่พอใจเพราะโดนล้อเลย กระทืบเท้า!ตึ้ง! เเล้วดนตรีก็หยุดลง

"จิตระเสนนี่ มึงเล่นล้อกูรึ"  สุเทษพูดเสียงดังด้วยอารมร์โกรธ


"ข้าไม่บังอาจขอรับ" จิตรเสนก้มหน้าตอบ


"เเล้วทำไมมึงพูดถึงกูเเบบนี้ อยากให้กูเจียมตัวงั้นรึ มึงก็รู้ว่ากูเศร้า ที่ไม่ได้สมใจ" สุเทษตบเข่าชาด พรางหันหน้าหนีเพราะอารมณ์เสีย


"ข้าเพียงเเค่หวังดี อยากให้ท่านอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง"


"เเต่กูไม่พอใจ มึงไล่พวกมันไปเดี๋ยวนี้เลย"


"พอแล้ว ไปได้"


พอได้ยินคำสั่งประกาศลั่นจิตรเสนก็หันไปออกคำสั่งไล่ให้นักดนตรีออกจากท้องพระโลงไป


"ข้าได้เตรียมนางอัพสรไว้ให้ท่าน ถ้าท่านสนใจ ข้าจักขอเรียกเข้ามาให้" สุเทษที่อารมณ์เสียอยู่ก็เลิกคิ้วด้วยความสนใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยปาก


"ก็ลองเรียกเข้ามา เผื่อกูจะอารมณ์ดีขึ้นมา"


"เข้ามาได้"

เเละเหล่านางรำก็ค่อยๆเดินเข้าในท้องพระโรงพร้อมรำต่อหน้าสุเทษ

เเต่สุเทษทำหน้าไม่เเฮปปี้เท่าไหร่ พร้อมยกมือขึ้นเพื่อบอกให้พวกนางหยุดรำ พวกนางรำก็ก้มหัวให้เเล้วเดินออกไป


จิตระเสนจึงเอ่ยถามถึงเหตุผล "ทำไมรึท่าน มีอะไรไม่ถูกใจก็บอกให้ข้าได้รู้เถิด"


"ไม่มี เพลงเพราะ รำก็ดี เเต่กูกำลังเศร้า มึงก็รูว่าเพราะอะไร" ทำหน้าเศร้าเมื่อพูดถึงความรักที่ไม่สมหวังของตน


"ข้าเข้าใจขอรับ เรื่องความรักของท่านเเเสนหนักใจ เเต่บนสวรรค์ก็มีนางสวยๆอยู่เยอะหน่าท่าน  ข้าว่าคงมีนางที่ท่านจักถูกใจอยู่บ้าง"


"คนสวยน่ะมีอยู่มากมาย ข้ารู้ดี เเต่คนที่สวยกว่านางมัทนายอดรักของข้า คงจักหาไม่ได้ ในเมื่อนางงามทั้งร่างกาย ไม่มีส่วนไหนที่ไม่น่ามอง ขนาดสรวงอกยังตั้งคู่สวยกว่าผู้ใด ยังพูดเพราะน่าฟังอีก คงไม่มีผู้ใดเทียบนางได้" สุเทษพอพูดถึงพี่คนสวยก็ยิ้มออกมาด้วยความสุข


ในขณะนั่นจิตรรถก็เดินเข้ามาในท้องพระโรง ยกมือไหว้เเล้วหมอบลงตรงหน้าสุเทษ สุเทษจึงเปลี่ยนความสนใจไปถามจิตระรถเรื่องงานที่เคยสั่งไป


"ไอ้จิตระรถ งานที่กูสั่งมึงไปทำสำเร็จไหม"


"ขอรับ ข้าเดินทางไปถึงสามโลกเพื่อวาดสวยงานทั้งหลาย ท่านโปรดดูเองเถิด" จิตระรถพูดด้วยรอยยิ้ม พรางให้คนส่งรูปหญิงงานมาให้แล้วยื่นให้สุเทษดู สุเทษหยิบรูปไปดูเเต่ยังเเอบไม่พอใจ เพราะไม่มีผู้ใดที่สวยเท่านางมัทนา


"ที่เจ้าวาดมาก็สวยดีเเต่ไม่มีผู้ใดงามเท่ายอดรักของข้าสักคน เห้อ คงเป็นกรรมของข้าเเล้ว ที่หานางที่งามกว่านางไม่พบ" สุเทษพูดพร้อมทำหน้าเศร้า


"งั้นข้าว่าท่านต้องมีแผน" จิตระรถพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ


"มึงมีแผนอะไรงั้นรึ"


สุเทษเกิดความสนใจกับคำพูดของจิตรรถมาก รีบเด้งตัวขึ้นตั้งใจฟัง


"ตอนที่ข้าเที่ยววาดหญิงงามไปทั่วทุกโลก ข้าได้เจอกับวิทยาธรที่ใช้เวตมนต์เรียกคนจากแดนไกลได้นามว่ามายาวินขอรับ" จิตระรถเงยหน้าตอบ


"จริงหรือว่ะ"


"จริงขอรับ ข้าเห็นมาเองกับตา ถ้าท่านสนใจ ข้าก็พาคนผู้นั้นมาเเล้ว บัดนี้รออยู่ข้างนอก ขอท่านให้ข้าพาเข้ามา"


"พาเข้ามา" สุเทษตอบรับด้วยอารมณ์ดีขึ้นมา


จิตระรถจึงขอตัวลาออกไปเพื่อพาตัวมายาวินเข้ามา


จิตระเสนที่นั่งฟังอยู่ด้วยเกิดสงสัยในเรื่องความสามรถของคนที่จิตระรถพูดถึง จึงเอ่ยถาม


"ข้าสงสัย เรื่องเวทมนต์ข้าว่าก็คงมีจริงที่จะเรียกคนได้ เเต่ถ้าจะบังคับใจให้มารัก ท่านว่าจักทำได้จริงหรือ" จิตระเสนพูดถาม เเฝงด้วยความเป็นห่วง เพราะรู้ดีกว่า เรื่องใจไม่สามารถรั้งใครให้มารักได้


"ที่มึงพูดก็ถูก เเต่ถ้าทำเเล้วได้เห็นหน้านาง ข้าก็อยากลองดู"

ตอนนั้นจิตระรถก็พาตัวมายาวินเข้ามา


"มายาวินขอรับ" จิตรรถเอ่ยเเนะนำให้สุเทษได้ฟัง


"อืม ขอบใจที่มา ข้าได้ยินมาว่าท่านมีเวทมนต์ จักพอช่วยข้าได้หรือไม่"  สุเทษโน้มตัวถาม


"ถ้าให้พูด ข้าเองก็ทำได้หลายอย่าง เช่นการเรียกผู้ใดก็ได้ ไม่เว้นชายหญิง ผู้นั้นจะติดอยู่ในไสยเวทย์ เเลมาปรากฏกายต่อท่านได้ขอรับ ถ้าท่านอยากใหข้าเรียกหาผู้ใด เพียงเเค่บอกขอรับ"


"กูหลงรักหญิงงามอยู่ผู้หนึ่ง นามมัทนา ไม่ว่าคนในโลกไหนก็ไม่อาจเทียบ ตั้งเเว    ต่ถ้ามาอยู่บนสวรรค์ยังไม่เคยพบใครงามเท่านาง เเต่เสียที่นางไม่เคยเหลียวเเลข้าเลย"สุเทศพูดอีกก็เศร้าอีกครา


ตอนนั้นมายาวิทก็ได้หลับตาเเล้ว เห็นอดีตของทั้งสอง


"ข้าเข้าใจเเล้วว่าทำไมนางมิเเลท่าน เพราะกรรมในอดีตที่ทำร่วมกันมาขอรับ"


"เป็นเช่นไรว่ะ ท่านจงรีบเล่า"


"ตอนที่ท่านเป็นมนุษย์ ท่านได้เป็นราชาของเมืองใหญ่ ได้ไปชอบพอนางมัทนาที่เป็นธิดาของเมืองอื่น เเต่พ่อของนางไม่ยอมยกนางให้ท่าน ท่านโกรธจึงยกทัพไปประชิดเมือง เมื่อเมืองนั้นสู้ไม่ได้ ท่านจึงให้ข้อเสนอว่า ถ้ายกนางมัทนาให้จะไว้ชีวิตพ่อของนาง นางจึงยอมตกลง เเต่เมื่อท่านพานางเข้ามาเป็นมเหสี นางกลับไม่สามารถรักท่านได้ เพราะนางคิดว่าท่านเป็นศัตรู ในตอนนั้นพ่อนางปลอดภียดีเเล้วนางจึงฆ่าตัวตายต่อหน้าท่าน ตัวท่านเองก็เสียใจมากจึงบำเพ็ญเพียรจนสามารถกลับมาจุติเป็นสุเทษณะเทพบุตร เพราะเหตุนี้รักของท่านจึงพบเจอเเต่อุปสรรค"


มายาวินเล่าถึงที่มาทั้งหมด สุเทษที่ได้ฟังก็ทำหน้าเศร้า สำนึกถึงความผิดที่เคยทำ


"ขอบใจที่เล่าให้ข้าฟัง งั้นครั้งนี้ข้าจักยอมเสี่ยงดูอีกสักครั้ง เพื่อจะได้สมหวังบ้าง"


"งั้นข้าขอให้คนเตรียมเครื่องพิธีได้หรือไม่" มายาวินเอ่ยขอ จิตระรถจึงตะโกนเรียกในคนนำเครื่องพิธี ทั้งบายศรี เครื่องเส้นไหว้เเละเทียนเพื่อจุดทพพิธี


มายาวินนั่งบนที่นั่งเเล้วเริ่มร่ายคาถา(มั่วเลยเพื่อนรัก) ทุกคนเองก็มองด้วยความลุ้น เเละในท้ายที่ก็ปรากฏกายของนางมัทนาค่อยๆเดินออกมา


เเต่นางเดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง คล้ายคนหลับไม่ตื่น เนื่องด้วยกำลังต้องมนต์อยู่ เมื่อสุเทษเห็นนางก็รีบลงจากทั้งไปรับนาง เเต่นางกลับไม่เเสดงอารมณ์ใดๆ สุเทษจึงเกิดสงสัย จึงหันไปพูดกับมายาวิน


"ทำไมนางไม่พูด"

"เพราะนางกำลังต้องมนต์อยู่ขอรับ ข้าจักคลายให้บัดนี้" มายาวินท่องคาถาก่อนจักเป่าไปที่หน้าผากของนาง พร้อมกระซิบว่าหากสุเทษถามอันใดก็ให้เอยตอบออกไป


 นางตอบรับด้วยการพยักหน้าเล็กน้อย มายาวินจึงเดินออกไปให้ทั้งสองได้คุยกัน


"อะเเห่ม น้องมัทนาคนงานยอดรักของพี่ ตัวพี่นี้รักน้องมาตั้งนานเเล้วหนา ไม่เคยมีวันใดที่ไม่นึกถึงเจ้า หวังว่าเจ้าเองก็คงชอบพอพี่เช่นเดียวกัน" สุเทษพูดด้วยเสียงที่อ่อนลง พรางจ้องไปที่หน้าไร้อารมร์ของนางมัทนา


"ถึงข้าไม่ได้รัก ก็ขัดท่านไม่ได้"


"จริงรึ"      "จริงตามที่ข้าพูดนั้นเเหละ"

  

"กระไรกัน เจ้ารักหรือไม่รักพี่กันเเน่เล่า"


"จะรักหรือไม่ สำคัญรึ"


"เเต่พี่รักเจ้าจริงหน่า จะไม่ทิ้งเจ้าเเน่"


"ตอนนี้ยังรัก ท่านจะทิ้งข้ารึ"


"ความรักของเรามีอุปสรรคเพราะไม่ได้ใก้ลชิดเจ้า"


"ความรักจัดไม่มีอุปสรรคเพราะได้ใก้ลชิดข้ารึ"


 "อะไรกัน!มัทนาทำไมถึงไม่ตอบพี่เล่า"


"อะไรกัน ข้าก็เอ่ยตอบอยู่!"


"เสียเเรงที่พี่ไปรักเจ้า ทั้งทีเจ้าไม่เคยจักเเล"


"ข้าไม่ชอบพอท่าน พูดไปก็เสียแรงเปล่า"


สุเทษจ้องไปหน้านาง เเต่ยังไม่เห็นว่านางมีอารมณ์ร่วมจึงถามอีกครั้ง


" เเล้วถ้าพี่กอดจูบเจ้า จักว่ากระไร"


"ยังไงข้าก็ฝืนท่านไม่ได้ ถึงข้าไม่อยากท่านก็ทำอยู่ดี"


สุเทษไม่พอใจในคำตอบของนางจึง หันไปพูดกับมายาวิน


"ทำไมนางเป็นเเบบนี้"


"เพราะนางยังโดนมนต์อยู่ขอรับ หากจักให้ข้าคล้ายหมด เกรงว่าจักดื้อไม่ยอมฟังท่าน เเต่ถ้าท่าขอเเค่ได้เห็นหน้านาง ข้าจะเสกอีกหนให้นางไม่เป็นเช่นนี้"
สุเทษทำให้หน้าเคร่งเครียด เเต่ก็ยอมเอ่ยออกไป


"ข้าไม่เอาเเบบนั้น ข้ารักนางก็อยากให้นางรักข้าด้วยใจจริงเช่นเดียวกัน จักให้ข้ารักไปคนเดียวข้าไม่ชอบ  งั้นเจ้าก็คลายมนต์เสียเถิด ข้าจักลองพูดกับนางเอง เพื่อคล้าวนนี้นางจัดยอมรับรักข้า"


ครั้นมายาวินร่ายมนต์เพื่อคลายคาถาในตัวนางมัทนา นางก็ค่อยๆรู้สึกตัว ทำท่าเหมือนึนพึ่งตื่น


ครั้นหันไปเห็นสุเทษก็ตกใจกลัว เเล้วจักรับวิ่งหนีไป เเต่สุเทษคว้าเเขนนางเอาไว้ได้ทัน
"พึ่งตื่นเจ้าจักรีบไปไหนเล่า"


"ข้าอยู่ที่ไหน มาได้ย่างไรกัน ข้าไม่รู้ตัวเลย ท่านจงเมตตาข้าเถิด"


"โถ่ แม่ยอดรักของพี่ พี่เองที่ให้คนพาตัวเจ้ามา" สุเทษยิ้ม ให้กับใบหน้างงงันของนางมัทนา


"ทำไมท่านถึงทำเช่นนี้เล่า ต่อหน้าเทวนานางฟ้าคนอื่นๆ ข้าเสียหน้านะ"


มัทนาที่รู้ความจริงก็นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ สุเทษที่เห็นคนที่รักร้องไห้จึงนั่งลงปลอบ


"ยอดดวงใจของพี่อย่าร้องลยหน่า ใบหน้าของเจ้าไม่เหมากับน้ำตาหรอก พี่รักเจ้าจริงๆ  ตอบคำรักเถิดหนา พี่จักไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าไป เจ้างามขนาดนี้ หากพี่ไม่ได้ครอบครองคงเหมือนสิ้นใจ ตัวพี่นี้มีทุอย่างเเต่อยากได้เเค่เจ้า ได้ไหมมัทนา ตอบรับพี่สักครั้งเถอะนะ"


สุเทาเว้าวอนพูดน้ำเสียงอ่อนลงมาก



"ไม่ว่าท่านจักพูดอย่างไง ข้าก็โกหกไม่ได้ว่ารักท่าน" มัทนาตอบเสียงเย็นชา


"หรือที่เจ้าไม่รับรักพี่ เพระเจ้ามีคู่อยู่เเล้วรึ"


"ไม่มีเจ้าคะ"


"เเล้วที่เจ้าไม่รับรักพี่ เพราะเหตุใดกัน พี่มันไม่ดียังไง"


"ไม่หรอกเจ้าค่ะ ข้าผิดเองที่รับรักท่านไม่ได้"


"ยิ่งฟังพี่กวนใจพี่นัก!ยิ่งเห็นหน้าเจ้าเเบบนี้พี่เองก็เเทบคลั่ง" สุเทษพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกเสียหน้า มัทนาเมื่อเห็นสุเทษเป็นเช่นนั้นก็ เริ่มกลัว


"ถึงจักโกรธข้าอย่างไรข้าก็ไม่อาจรักท่านได้หรอก ถึงข้าจะอยาก เเต่ข้าก็โกหกใจตัวเองไม่ได้ ถ้างั้นข้าขอลา"


 มัทนาพูดจบก็จะกราบเเล้วลาไป เเต่สุเทษคว้ามือเอาไว้ได้อีกครั้ง เเต่คล้าวนี้ดึงด้วยเเรงที่มากขึ้นเพราะความโกรธที่ถูกนางปฏิเสธ


"จะไปไหน " สุเทษถามนางเสียงเเข็ง


" ก็ท่านว่ารำคาญ เเล้วข้าจะอยู่ทำไม" มัทนาตอบเสียงสั่น พเพราะรูตัวว่าโดนโกรธเข้าเเล้ว


"พี่ไม่ได้รำคาญ"


"เเต่ข้ามองออก"


"อย่ามาพูดเเบบนี้นะมัทนา พี่ดูโง่ในสายตาเจ้ารึ" สุเทษมองนางด้วยสายตาเศร้าเเต่ก็ยังโกรธอยู่


"ข้าเคารพเท่านต่างหาก ท่านเป็นถึงเทวดายศสูง มีนางฟ้านางสวรรค์อยู่รอบตัวไปหมด อย่างท่านจักรักข้าไปสักอีกกี่วันกัน  ข้าถือว่าหากข้าไม่รัก ไม่ว่าชายใดก็จักไม่ยอมตกเป็นเมีย....ถ้าไม่มีอะไรเเล้วข้าขอลา"  


มัทนาเตรียมตัวเดินหนีอีกครั้ง เเต่ครั้งนี้สุเทษอารมณ์เสียจัด เลยตวาดออกมาลั่น



"นี่!! เจ้านี่มันอย่างไรกัน ที่ข้าถามไม่เคยจะตอบเอาเเต่พูดย้อนข้า พูดให้ข้าตายใจ ได้ ถ้าไม่รักข้า เจ้าก็ลงไปอยู่ที่เเดนมนุษย์!! เลือกเอาเถอะว่าจะเกิดเป็นอะไร ข้าจะสาปให้ตามคำขอ จนกว่าเจ้าจะสำนักผิด!!"


สุเทษพูดด้วยอารมณ์โกรธมากกว่าที่เคยเพราะรู้สึกโดนหยามจากคำพูดของนางมัทนา


"ข้าคงไม่มีโชคถึงได้โดนลงโทษโดยที่ข้ามิผิด งั้น ข้าขอเกิดเป็นดอกไม้มีกลิ่นหอม เอาไว้ใช้บูชา อย่างน้อยก็ใช้ข้าได้ทำประโยชน์เถอะ" นางพูดปนสอื้น


"ได้ ข้าจะทำให้ตามที่เจ้าบอก ท่านมายาวิน นางอยากเป็นดอกไม้ มีดอกไม้ใดบ้างรึที่กลิ่นหอมเเล้วยังสวยงาม เเต่ตองมีหนามเอาไว้ไม่ให้ใครเอาเเตะต้อง"


 สุเทษหันไปถามมายาวินที่นั่งอยู่ มายาวินจึงเอยตอบว่า


"ดอกกุหลาบขอรับ ทั้งมีสีเเดงสวยเหมือนเเก้มนาง ดอกใหญ่งาม มีกลิ่นหอม มีหนามที่กิ่งก้านไม่ให้ผู้ใดสัมผัส ทั้งยังมีสรรพคุณทางยา เเละรสชาติดี" มายาวินตอบด้วยท่าทางสุขุม


"ว่าอย่างไร พอใจรึไหม" สุเทษหันไปถามนางมัทนา


"ไหนๆก็จะเกิดเป็นดอกไม้เเล้ว ข้าพอใจที่จะมีหนาม ขอบคุณท่านที่เลือกให้ข้า" มัทนาตอบเสียงเศร้ารู้ดีว่าอีกไม่นานตนต้องกลายเป้นดอกกถหลายในโลกมนุษย์


สุเทษที่ก็ยังรักเเต่ก็โกรธอยู่มาก จึงเอ่ยปากสาปนางเป็นครั้งสุดท้าย


"ด้วยอำนาจของกู กูขอสาปนางมัทนาให้ไปเกิกในเป็นดอกกุหลาบในโลกมนุษ์ เป็นเเบบนั้นจนกว่าจะรู้สึกผิด ในวันที่พระจันทร์เต็มดวงจึงสามารถกลับไปเป็นมนุษย์ได้หนึ่งคืน เเต่ถ้าหากนางมีความรัก ก็ให้เป็นมนุษย์ต่อไปได้ เเต่ถ้ามีรักเเล้วไม่มีความสุข จนไม่อยากทนต่อ ก็ให้นางมาขออ้อนวอข้า เมื่อนั้นข้าจักเลิกลงโทษเจ้า......ไปเถิดมัทนา ไปเกิดใหม่เป็นกุหลายตามคำของข้าเสีย!!!!!!"



หลังสิ้นเสียงสุเทษก็เกิดฟ้าผ่าลั่น นางมัทนาร้องกรี๊ด เเล้วล้มลง กลายเป็นดอกกุหลาบลงไปจุติลงที่โลกมนุษย์


                                  จบ        


                                  ประพันธ์ : ชอร์ลาเรส




จบเเล้วโว้ยยยยยยย😭😭😭😭😭😭









   


แนะนำตัวละคร เข้าอ่านหน่อยคับ

  เเนะนำตัวละครเเบบฉ่ำ สุเทษณ์ เป็นเทวดาที่เเอบรักนางมัทนามานานคับเเต่อาภัพรักไม่เคยได้สมหวังกับนางสักครั้ง เป็นคนครั่งรัก เเล้วก็ปากหวานม...