มีเเม่ค้าสาวนางหนึ่งกำลังเปิดโชว์รูมขายรถ เป็นรถรุ่นใหม่ เเบบดุดันไม่เกรงใจใคร อย่างฟอร์ด เรนเจอร์ เเร็พเตอร์
เเม่ค้า : เอาไหมจ้าา เอารถไหมม ดุดันไม่เกรงใจใคร ฟอร์ดเรนเจอร์!! เเร้พเตอร์!!
ขณะนั้นเองก็มี ท้าวมหาพลเจ้าเมืองเทมปุระที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าจนไปเจอกับร้านของเเม่ค้านางนั้นเข้า จึงได้เอยถามขึ้นว่า
ท้าวมหาพล: รถรุ่นนี้ออโต้บอทหรือดีเซ็ปติคอนรึ ข้าอยากได้บับเบิ้ลบี เจ้ามีไหม?
เเม่ค้า: อะไรกัน ข้าไม่มีหรอก! มีเเค่ฟอร์ดล่ะ ท่านจะเอาไหม
ท้าวมหาพล:ข้าอยากได้บับเบิ้ลบี้
เเม่ค้า:ข้าไม่มี!!
ท้าวมหาพล:งั้นข้าไม่เอา
พอได้ยินเช่นนั้นเเม่ค้าจึงโกรธจัด เเล้วเกิดความเครียดเเค้น พร้อมเผยร่างจริงว่านางนั้นไม่ใช่เพียงเเม่ค้าธรรมดา เเลยังยกกองทัพ พลศึกนับร้อยเข้าบุกโจมตีเมืองเทมปุระ
ท้าวมหาพลเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าตัวเองอาจจะสิ้นชีวิตในการทำศึกครั้งนี้ จึงได้พาพระมเหสีเเละพระราชธิดาทั้งสองติดสอยหนีตามกันเข้าไปในป่า เพื่อจะเดินต่อไปให้ถึงเมืองบ้านเกิดของผู้เป็นพระมเหสี
เเต่ในระหว่างทางนั้นพบเจอกับโจรป่า!! ท้าวมหาพลที่คิดว่าตนสู้ไหวจึงเข้าต่อสู้ เเต่ฝั่งโจรกลับมีมาก พระองค์จึงควักปืนที่พกติดตัวออกมาพร้อมพูดว่า
ท้าวมหาพล : อ่อนหัด!! เเกคิดว่าฉันมีเเค่นี้หรอ!!
พร้อมลั่นไกลปืนออกไปสองนัด นัดเเรกพุ่งเข้าตรงไปที่หัวหน้าของกลุ่มโจร ที่ทำการหยุดกระสุนให้ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศได้ทัน สองอีกนัดนั้นพุ่งไปโดนเข้ากับเจ้าหมาประจำกลุ่มจนมันดิ้นเเล้วสิ้นใจตรงนั้น
หัวหน้ากลุ่มโจรเห็นเเล้วก็ยิ่งเจ็บใจที่ของรักของสำคัญของกลุ่มต้องมาสิ้นใจเพราะชายคนนี้
หัวหน้าโจร : หึ้ย! เเกนะเเก...!
จากที่เพียงจะเเค่ปล้นเอาทรัพย์ กลับเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเล่าใจ ท้าวมหาพลที่เสียเเรงจากการต่อสู้เเละการหลบหนีจึงได้พลาดท่า ล้มลงเเละโดนฆ่าตายในที่สุด
ทั้งมเหสีเเละพระธิดาจึงพากันเดินหนีออกมา เเต่ก็ยังทิ้งลอยเท้าเอาไว้ เป็นทางยาวไปทั่วป่า
คล้าวนั้นเอง ท้าวจันทรเสนเเละพระโอรสกำลังออกเดินสำรวจป่าเพื่อล่าสัตว์เเต่ทั้งสองพระองค์ดันไปเห็นรอยเท้าสองคู่ที่ลากเป็นทางยาว เเลเห็นว่ารอยเท้าทั้งสองมีขนาดต่างกัน จึงได้เกิดความคิดบ้างอย่าง พระโอรสจึงได้พูดขึ้นว่า
พระโอรส: คงเป็นผู้หญิงสวย หากเป็นชายคงไม่เท้าเล็กเพียงนี้ ข้าว่ารอยเท้าขนาดเล็กนี้คนเป็นของสาววัยรุ่น ข้าอยากจะขอเอาไว้เป็นเมียข้า ส่วนรอยเท้าที่ใหญ่กว่าคงเป็นของสาวใหญ่ ขอท่านพ่อรับเอาไว้
ท้าวจันทรเสนได้ยินดันนั้นก็เห็นดีเห็นงามเเละตกลงคำมั่นนั้นเเล้วพากันสะกดเดินตามรอยเท้านั้นไปเรื่อยๆ
จนไปอจอกับสองเเม่ลูกที่กำลังหลบหนีมา เเต่พอลองพินิจคิดดูดีๆ ปรากฏว่ารอยเท้าของสาวทั้งคู่สลับกับที่พวกชายทั้งสองคิดเอาไว้
เมื่อรอยเท้าใหญ่นั้นเป็นของพระธิดา ส่วนรอยเท้าเล็กนั้นเป็นของมเหสีที่ดูไม่ได้มีอายุมาก
ถึงจะรู้เช่นนั้นเเล้ว เเต่ทั้งสองคู่ก็ยังคงตัดสิ้นใจคำเดิมไม่เปลี่ยน ท้าวจันทรเสนก็ได้ตกเเต่งกับสาวรุ่นเช่นพระธิดา ส่วนพระโอรสก็ได้เเต่งกับพระมเหสี
พอนานวันเข้าทั้งสองนางจึงได้ให้กำเนิดทายาทออกมา
พอถึงตรงนี้เวตาลจึงได้ถามกับพระวิกรมาทิตย์ว่า
เวตาล: ท่านคิดว่าเมื่อบุตรทั้งสองคลอดออกมาเเล้วจะมีการเรียกลำดับญาติกันเช่นไร
พระวิกรมาทิตย์: ........
พระวิกรมาทิตย์ไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะการเดินไปกลับมาเช่นนี้ทำพระองค์เกิดสติมากขึ้น
ถึงเวตาลจะยั่วยุมากเพียงใดพระวิกรมาทิตย์ก็ไม่ได้เเสดงอาการอะไรออกมา จนเวตาลเริ่มโมโห
เวตาลเกิดคิดเล่เหลี่ยมที่จะทำให้พระวิกรมาทิตย์เสียความเอเลเเกนท์ จึงยกมือทั้งสองทำสัญลักษณ์ประหลาด
เวตาล : หึ....กางอนาเขต!
เพียงชั่วเเวบตาเดียวพระวิกรมาทิตย์ก็เหมือนถูกดูดเข้าไปในอีกโลกที่ไม่เหมือนเช่นเดิม
ภาพตรงหน้าที่เห็นเป็นเวตาลตนเดิมเเละข้างๆเป็นสาวน้อยที่ใส่ชุดไม่คุ้นตากับยุคสมัย ยิ่งเกิดคำถามให้เเก่พระวิกรมาทิตย์มากขึ้นไปอีกว่าเกิดอะไรขึ้น
พระวิกรมาทิตย์: นะ....นี้มัน! อะไรกันนะ!! ที่นี้ที่ไหน!
เซเลอร์มูน : ไม่ทันเเล้วล่ะ ตัวเเทนเเห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์เเกเอง!
ทันทีที่เซเลอร์มูนร่ายคาถาเสร็จร่างกายขาวซีดกับเสื้อคลุมที่ดูน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพระวิกรมาทิตย์
พระวิกรมาทิตย์: ละ....หลอด วอเดอร์มอร์
ถึงจะตกใจกับสิ่งที่เห็นเเต่พระวิกรมาทิตย์ไม่ได้เกรงกลังกับสิ่งเล้าตรงหน้าจึงควักดาบขึ้นมาต่อสู้
วอเดอร์มอร์: หึ.....อาวาดาเคดราฟรา!!
เเต่เพียงชั่วครู่เวทมนต์สีเขียวพุ่งตรงจากปลายไม้กายสิทธิ์เเละจบลงที่ร่างกายกำยำของพระวิกรมาทิตย์ลงล้มลงเเละสิ้นใจในที่สุด
เวตาลที่เห็นดั้งนั้นก็ยิ้มเเละหัวเราะออกมาดังลั่นทั่วป่า พร้อมกับพูดปิดท้ายว่า
เวตาล: ข้าขอรับวิญญาณไปล่ะ.....เจ้าชายของข้า
-END-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น